19/2/23 ผู้เผย เช้าวันอาทิตย์/สงครามฝ่ายวิญญาน
ดีที่คุณได้อ่าน
(สงครามฝ่ายวิญญาน)
:แต่จงเข้าใจข้อนี้คือ วาระสุดท้ายนั้นจะเป็นเวลาที่น่ากลัว เพราะผู้คนจะเห็นแก่ตัว รักเงินทอง โอ้อวด หยิ่งยโส ชอบดูหมิ่น ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ชั่วร้าย ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ โอหัง รักความสนุกมากกว่ารักพระเจ้า
2 ทิโมธี 3:1-4 THSV11
:ยึดถือทางพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก แต่ปฏิเสธฤทธิ์เดชของทางนั้น จงอย่าเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น เพราะในพวกนั้นมีบางคนที่แอบไปตามบ้าน แล้วครอบงำบรรดาผู้หญิงเบาปัญญาที่หนาด้วยบาปและหลงใหลไปตามตัณหาต่างๆ หญิงพวกนี้ร่ำเรียนอยู่เสมอ แต่ไม่สามารถเข้าใจหลักความจริงได้เลย
2 ทิโมธี 3:5-7 THSV11
: เราจะสวยทั้งภายในและภายนอก
: คนที่พูดความจริงพระเจ้าจะอวยพร
:ื พระเยซูเป็นเจ้าบ่าว/ เจ้าสาวคือคริสจักรของพระเจ้า
: เจ้าสาวต้องพร้อม/คริสจักรเราจ้องพร้อม
: เรามีชีวิตใหม่แล้วเราเกิดใหม่แล้ว /อย่าทำบาปเราต้องเป็นคนชอบธรรม
: คริสเตียนทำบาป = กำลังสะสมพระพิโลธ
: พระเยซูบอกหญิงคนนั้นว่า อย่าทำบาปอีก
:เพราะเหตุนี้จงรื่นเริงยินดีเถิด สวรรค์และบรรดาผู้ที่อยู่ในสวรรค์ แต่วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลกและทะเล เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าทั้งหลาย ด้วยความเดือดดาลอย่างยิ่ง เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย”
วิวรณ์ 12:12 THSV11
: ยุคนี้คนจะเห็นแก่เงิน
: คริสเตียนต้อง รุ้จักกับพระเจ้า
: มารมันหลอกลวงเราหรือโกหกเรา /เราลื้อถอนและทำลาย
: พระคำพระเจ้าจะเป็นรั่ว
: พระองค์มีการเจิมที่มาจากพระวิญญาน
: เรารับฤดิ์เดช เพื่ออะไร? ื/ถ้าเราฤดิ์เดชเราจะมีกำลังสู้กับผี เพื่อจะได้ชนะ เอเมน
: อย่าเพียงรุ้ทิศดี ควรรุ้ภาคปฏิบัติด้วย เอเมน
: พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ เพื่อนำข่าวดีมายังคนที่ทุกข์ใจ พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อปลอบโยนคนชอกช้ำใจ และเพื่อประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ทั้งประกาศการเปิดเรือนจำแก่ผู้ที่ถูกจำจอง เพื่อประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระยาห์เวห์ และประกาศวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของพวกเรา เพื่อชูใจทุกคนที่ไว้ทุกข์ เพื่อจัดเตรียมให้กับพวกที่ไว้ทุกข์ในศิโยน คือให้มงกุฎแทนขี้เถ้าแก่พวกเขา และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์ เสื้อคลุมแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่ท้อแท้ แล้วคนจะเรียกพวกเขาว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม ที่พระยาห์เวห์ทรงปลูกไว้เพื่อสำแดงพระสิริของพระองค์
อิสยาห์ 61:1-3 THSV11
:แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”
กิจการ 1:8 THSV11
อ่านต่อๆ
ขณะพระองค์ทรงพำนักอยู่กับพวกอัครทูต ทรงกำชับพวกเขาว่า “อย่าออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา” ซึ่งพวกท่านได้ยินจากเรา “นั่นก็คือยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่อีกไม่นานพวกท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
กิจการ 1:4-5
:ข้าพเจ้าให้ท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริง แต่พระองค์ผู้จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
มัทธิว 3:11 THSV11
:เราต้องรับ บัพติศมา ด้วย คริสต้องต้องรับ บัพติศมา
: นี้มรดกของผู้เชื้อ
: เราต้องรุ้การเคลื่อนไหวของมาร โดยวิธี อฐิฐาน เฝ้าระวัง เชื่อสู้
: (การตั้งรับ)
ฝ่ายบุตรจงนบนอบเชื่อฟังบิดามารดาของตนในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะกระทำอย่างนั้นเป็นการถูก จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า นี่เป็นพระบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาไว้ด้วย เพื่อเจ้าจะไปดีมาดีและมีอายุยืนนานที่แผ่นดินโลก ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า ฝ่ายพวกทาส จงเชื่อฟังผู้ที่เป็นนายฝ่ายโลกด้วยใจเกรงกลัวจนตัวสั่น ด้วยน้ำใสใจจริงเหมือนที่กระทำแก่พระคริสต์ ไม่เหมือนอย่างคนที่ทำแต่ต่อหน้า อย่างคนที่ทำให้ชอบใจคน แต่จงทำเหมือนอย่างทาสของพระคริสต์ คือกระทำตามชอบพระทัยพระเจ้าด้วยความเต็มใจ จงปรนนิบัตินายด้วยจิตใจชื่นบาน เหมือนกับปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่ปรนนิบัติมนุษย์ เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าผู้ใดกระทำความดีประการใด ผู้นั้นก็จะได้รับบำเหน็จอย่างนั้นจากองค์พระผู้เป็นเจ้าอีก ไม่ว่าเขาจะเป็นทาสหรือเป็นไท ฝ่ายนายจงกระทำต่อทาสในทำนองเดียวกัน คืออย่าขู่เข็ญเขาเพราะท่านก็รู้แล้วว่า พระองค์ผู้ทรงเป็นนายของเขาและของท่านนั้นอยู่ในสวรรค์ และพระองค์ไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใดเลย สุดท้ายนี้ขอท่านจงมีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์ จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้ เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้ เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน และอธิษฐานเพื่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อจะทรงประทานให้ข้าพเจ้ามีคำพูดและเกิดใจกล้า ประกาศและสำแดงข้อลับลึกแห่งข่าวประเสริฐได้
เอเฟซัส 6:1-19 TH1971
#เอเมน
:คนที่รับใช้พระเจ้า คือคนฉลาด เด้ออออ
: อย่าดูถูกการเจิม เราต้องพบพระเจ้า
รอเลยพระพร
:ิ ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าให้โอกาส
: ไม่ใช่ใครที่จะมารับใช้พระเจ้าได้
: การรับใช้พระเจ้าไม่ใช้ง่ายๆน่าาาา
: ความเชื่อ ที่ไหนก็ได้//////
(วิธีปฏิบัติเชิงลบ)
: เรามีของประทานอะไร เราใช้อะไร ปฏิบัติเชิงลบ
: อยู่เชยๆนั้นก็เป็นบาป นั้นคือวิญญานเยอหยิ่ง
:พระคำของพระเจ้าบอกแต่ทเราทำตรงข้าม อย่าทำห้าม ถ้าทำ ก็หยุด/ แต่ให้เราปนนิบัติรับใช้ทำตามพระเจ้า กล้าปฏิเสธมาร
: เอเมน
: เราตามของประทาน
: เชื่อฟัง
จบ
ดีที่คุณได้อ่าน
Noet: Jabeź